ถามเรื่องข่มขืนกระทำชำเราตามกฎหมายใหม่
นาย ฉิ่งได้จดทะเบียนสมรสกับนางฉาบ ต่อมาปรากฏว่านางฉาบได้ย้ายไปทำงานต่างจังหวัด เป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนางฉาบกลับมาต้องการร่วมประเวณีกับนายฉิ่ง นายฉิ่งไม่ยินยอมเพราะอ้างว่าเพิ่งกลับมาจากทำงานและต้องเร่งทำงานอีกเยอะ นางฉาบคิดว่านายฉิ่งไปมีหญิงอื่นจึงใช้อาวุธปืนบังคับให้นายฉิ่งสามีของตน หันหลังและได้ใช้อวัยวะเพศเทียมสอดใส่เข้าไปทางทวารหนักของนายฉิ่งแต่อวัยวะ เพศเทียมได้เข้าไปยังทวารหนักของนายฉาบเพียงครึ่งเดียว อยากทราบว่านางฉิ่งมีความผิดอาญาฐานใด 1) ข่มขืนผู้อื่น 2) พยายามข่มขืนผู้อื่น 3) กระทำอนาจารผู้อื่น 4) ไม่มีความผิด
ตอบข้อ ข่มขืนผู้อื่น
"ข่มขืนกระทำชำเรา" ที่ได้แก้ไขใหม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๐ เป็นต้นไปโดยกฎหมายใหม่นี้
* มุ่งให้ความคุ้มครองบุคคลทุกเพศ
o ชาย ข่มขืน หญิง ก็ผิด
o หญิง ข่มขืน ชาย ก็ผิด
o พวกชอบไม้ป่าเดียวกัน เขาก็คุ้มครองนะ
+ ชาย ข่มขืน ชาย ก็ผิด
+ หญิง ข่มขืน หญิง ก็ผิด
* คุ้มครอง สามี หรือ ภริยา ไม่ให้ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากคู่สมรส
o สามี ข่มขืน ภริยา ก็ผิด
o ภริยา ข่มขืน สามี ก็ผิด
* การกระทำชำเราไม่จำต้องทำต่อ อวัยวะเพศ อย่างเดียวแม้จะทำกับ
o ทวารหนัก หรือ
o ช่องปาก ก็ผิด
* ที่สำคัญ ใช้ สิ่งอื่นใด กระทำกับ อวัยวะเพศ หรือ ทวารหนัก ก็โดนด้วย คำว่าสิ่งอื่นใดนี่ก็กว้างมากเลย
o ใช้ปากก็ผิดข่มขืนนะ (ออรัลเซ็กซ์)
o สิ่งเทียมอวัยวะเพศ (เซ็กซ์ทอยส์) ทั้งหลาย
o นิ้วมือ นิ้วเท้า (ระวังนะใช้นิ้วจิ้มตูดใครเข้า ติดคุกตายเลย ฮ่าฮ่า)
o เครื่องเขียนต่างๆ
o ดอกไม้ ธูป เทียน
o ขวดยาดม ยาหอม ยาหม่อง
o ฯลฯ
ความผิดฐานโทรมหญิง และโทรมเด็กหญิง ยังอยู่
ความกังวลและกังขาของนักกฎหมายอาญาหลายท่านต่อความผิดฐานโทรมหญิง และโทรมเด็กหญิง ว่าจะไม่มีที่บังคับใช้นั้น ความกังวลและกังขาตรงนี้ก็หมดไป เพราะได้แก้ไขมาตรา ๒๗๗ ทวิ และมาตรา ๒๗๗ ตรีตามไปด้วยแล้ว (พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ.๒๕๕๐) บทวิจารณ์จากนักกฎหมายอาญา
กฎหมาย ข่มขืนนี้ มีนักกฎหมายอาญาอย่างอาจารย์ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้วิจารณ์ไว้ (มติชนรายวัน, ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๐) ที่น่าสนใจ ดังนี้
* ข่มขืนภริยาเด็กอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี ไม่มีความผิด ตาม กฎหมาย ข่มขืนภริยาที่อายุเกิน ๑๕ ปีแล้ว เป็นความผิด สามีอาจติดคุก แต่หากข่มขืนภริยาเด็กอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี ไม่มีความผิด เพราะมาตรา ๒๗๗ ที่แก้ไขใหม่ยังคงมีข้อความว่า "ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม..." แสดงว่าหากข่มขืนเด็กที่เป็นภริยาตนแล้ว ผู้กระทำไม่มีความผิด ตกลงข่มขืนเมียอายุกว่า ๑๘ ติดคุก ข่มขืนเมียเด็กต่ำกว่า ๑๕ ไม่มีความผิด ขอบคุณท่านผู้หญิงและคุณผู้หญิงที่สนับสนุนให้มีเมียเด็กอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี เพื่อข่มขืนกระทำชำเราแล้วจะไม่เป็นความผิด
* เด็กขอร้องให้ช่วยทำ ไม่มีความผิด คำว่า "เพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำ" ที่เพิ่มเข้าไปใหม่ แสดงว่าหากเป็นการทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้เสียหายเอง ผู้กระทำย่อมไม่มีความผิด ดัง นั้น หากจำเลยต่อสู้ว่าเด็ก "ขอร้อง" ให้ช่วยทำให้ ผู้กระทำย่อมไม่มีความผิดตามความหมายนี้ เพราะไม่ได้ทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำเอง แต่ทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้เสียหาย มาตรา ๒๗๗ ก็จะใช้คุ้มครองเด็กไม่ได้ หรือใช้ได้ลำบากขึ้น ก็เป็นอีกกฎหมายหนึ่งที่ควรรู้เอาไว้ แต่เดิมอาจเป็นได้แค่ความผิดฐาน "อนาจาร" แต่บัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นความผิดฐาน "ข่มขืนกระทำชำเรา" เสียแล้วและมีโทษหนักด้วยสิ และจะมีปัญหาในการบังคับใช้จริงหรือไม่ ก็ต้องติดตามดู.
มาตรา ๒๗๗ ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสามได้กระทำโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกัน อันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิงหรือกระทำกับเด็กชายในลักษณะเดียวกันและเด็กนั้นไม่ยินยอม หรือได้กระทำโดยมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต
ความผิดตามที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นการกระทำโดยบุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปีกระทำต่อเด็กซึ่งมีอายุกว่าสิบสามปี แต่ยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นยินยอม และภายหลังศาลอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายสมรสกัน ผู้กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ ถ้าศาลอนุญาตให้สมรสในระหว่างที่ผู้กระทำผิดกำลังรับโทษในความผิดนั้นอยู่ ให้ศาลปล่อยผู้กระทำความผิดนั้นไป